29 โรคอ้วนและเบาหวาน ธาตุไฟและธาตุดิน

โรคเบาหวานและภาวะน้ำหนักเกินเป็นปัญหาที่มีเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคภัยหลายซนิด เช่น เบาหวาน เส้นโลหิตอุดตัน ความดันโลหิตสูง มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก โรคหัวใจ ฯลฯ ดังนั้นปัญหาดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจในปัจจุบันนี้ 

 

แน่นอนว่าสาเหตุของโรคอ้วนมีความเกี่ยวพันกับหลาย ๆ ปัจจัย อันได้แก่ คุณภาพอาหาร นิสัยการกินของเรา และรูปแบบการดำเนินชีวิตที่บั่นทอนสุขภาพ การขาดการออกกำลังกาย ฯลฯ การจะเข้าใจสาเหตุของโรคอ้วน เราจะต้องเริ่มที่ธาตุพื้นฐานของร่างกายและเซลล์ของเรา เซลล์คืออวัยวะที่ซับซ้อน หน้าที่อย่างหนึ่งของเซลล์คือสร้างพลังงานให้กับชีวิต ในการผลิตพลังงานดังกล่าวจำเป็นจะต้องใช้เชื้อเพลิงที่ได้จากอาหารที่เรารับประทาน  เชื้อเพลิงนี้คือกลูโคส และที่ผิวนอกของแต่ละเซลล์จะมีตัวรับชนิดพิเศษคอยทำหน้าที่รับกลูโคส ซึ่งจะถูกลำเลียงไปสู่ไมโทคอนเดรียภายในเซลล์ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเตาหลอมที่ทำหน้าที่เปลี่ยนกลูโคสให้เป็นพลังงาน

 

ฮอร์โมนอินซูลินซึ่งผลิตจากม้ามของเราจะช่วยให้การลำเลียงกลูโคสไปสู่เซลล์ของเราเป็นไปอย่างสะดวก ฮอร์โมนนี้เป็นฮอร์โมนที่เก็บสะสมไขมันซึ่งมีหน้าที่หลักในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นด้วยการทำให้การลำเลียงน้ำตาลในเลือดจากกระแสเลือดไปสู่กล้ามเนื้อ ตับ และเซลล์ไขมันเป็นไปได้โดยสะดวก แม้กระทั่งระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นมาเพียงน้อยนิดหลังมื้ออาหารก็สามารถกระตุ้นให้เถิดการหลั่งอินซูลินได้ เมื่อน้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้นอย่างรวดเร็วปริมาณของอินซูลินที่หลั่งออกมาจากเบต้าเชลล์ในตับอ่อนก็จะเพิ่มมากขึ้น อินซูลินจะขับน้ำตาลไปสู่เซลล์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์หรือเก็บสะสมไว้ในรูปไขมันภายในเซลล์ หน้าที่อีกอย่างของอินซูลินคือยับยั้งการเสื่อมของไขมัน

 

ตับอ่อนจะหลั่งฮอร์โมนออกมาสองชนิดในการปรับระดับน้ำตาลและไขมัน อินซูลินทำหน้าที่เก็บสะสมไขมัน ส่วนฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่ากลูคากอนทำหน้าที่ขับไขมัน การหลั่งฮอร์โมนกลูตากอนจะถูกกระตุ้นจากการรับสารอาหารโปรตีน ส่วนการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินถูกกระตุ้นโดยการรับสารคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นการรับประทานคาร์โบไฮเดรตมากๆ จะเพิ่มการหลั่งอินชูลินและหยุดยั้งการหลั่งกลูคากอน

 

ในอาหารที่เรารับประทาน อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตจะย่อยสลายกลายเป็นกลูโคส และเข้าสู่กระแสเลือดเร็วกว่าสารอาหารอื่น ๆ สารอาหารประเภทนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและกระตุ้นให้เกิดการหลั่งอินซูลินและระงับการหลั่งฮอร์โมนกลูคากอน ระบบตัวเลขที่กำหนดอัตราความเร็วที่สารอาหารคาร์โบไฮเดรตย่อยสลายกลายเป็นกลูโคสและเข้าสู่กระแสเลือดเรียกว่าดรรชนีกลีเซอมิค อาหารที่มีกลีเซอมิคสูงได้แก่ ขนมปังขาว แป้งขัดขาว ข้าว และอาหารที่ผ่านกระบวนการขั้นสูงซึ่งมีอยู่มากมายในอาหารที่เรารับประทานทุกวันนี้การรับประทานอาหารที่มีกลีเซอมิคสูงเหล่านี้บ่อยๆ จะทำให้อินซูลินหลั่งออกมามากเกินขนาดด้วยการเพิ่มน้ำตาลในเลือดและกระตุ้นอินซูลินมากเกินไป ระดับน้ำตาลในเลือดที่เกิดขึ้นซ้ำ  และระดับอินซูลินที่สูงขึ้นตามลำดับจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินของหลอดโลหิตและเกิดการอักเสบ ซึ่งจะทำให้หลอดใลหิตแข็งตัวในที่สุด หลอดโลหิตจะหดตัวและหนาขึ้นและจะไปสร้างสิ่งขัดขวางที่ทำให้อินซูลินในกระแสเลือดผ่านเข้าสู่ของเหลวรอบเซลล์เพื่อลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้ยากยิ่งขึ้น

 

ผลขั้นต้นของการต้านอินซูลินคือ "โรคอ้วนชนิดลงพุง" หากอินซูลินทำงานได้ดี กลูโคสจะเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อ และจะทำให้เหลือน้ำตาลเพียงเล็กน้อยที่เซลล์ไขมัน แต่หากเกิดอาการต้านอินซูลิน น้ำตาลจะไม่สามารถเข้าสู่กล้ามเนื้อและอาจเข้าไปสู่เซลล์ไขมันโดยตรงซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่บริเวณรอบเอว จากนั้นเราจะเริ่มมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะบริเวณรอบเอว และเซลล์ไขมันบริเวณส่วนกลางของร่างกายจะพอกพูนมากขึ้น

 

ผลที่ตามมาในขั้นสุดท้ายของการต้านอินซูลินคือโรคเบาหวาน การหลั่งอินซูสินมากเกินไปจะทำให้เบต้าเชลล์ในตับอ่อนอ่อนแรงจนถึงระดับที่ไม่สามารถผลิตอินซูลินได้อีกต่อไป ผลก็คือน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้นโดยปราศจากการควบคุมและก่อให้เกิดอาการของโรคเบาหวาน ร่างกายไม่สามารถจัดการกับน้ำตาลในเลือดทำให้เซลล์กล้ามเนื้อไม่ได้รับพลังงานที่จำเป็นอาการเริ่มต้นจะเหนื่อยง่าย ความดันโลหิตสูง และในท้ายที่สุดจะส่งผลที่เป็นอันตรายต่อดวงดา ไต และประสาท รวมทั้งก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา

 

ส่วนคาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงาน และพลังงานคือธาตุไฟ ตังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่าคาร์โบไฮเดรตมีความสัมพันธ์กับธาตุไฟ

 

เราอาจสังเกตเห็นว่าผู้คนมากมายมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีก่อนตั้งแต่ปี 1997 (2540) และต่อเนื่องมาจนกระทั่งราวๆ ปี 2003 (2546) ที่จู่ ๆ ก็เกิดกระแสโลกที่จะทำให้รูปร่างผอมเพรียว  โดยเฉพาะในปี 2004 (2547) และปี 2005 (2548) การลดน้ำหนักดูเหมือนจะเป็นหัวข้อหลักที่น่าสนใจและนิดยสารบันเทิงเกือบทุกเล่มก็รายงานตัวอย่างของคนดังที่ลดน้ำหนัก บริษัทฟิตเนสหลายแห่งที่เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักมีกิจการที่ประสบผลสำเร็จในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา กระแสดังกล่าวยังสามารถอธิบายด้วยความเข้าใจที่ว่าโรคอ้วนมีความเกี่ยวข้องกับธาตุไฟและธาตุดินเป็นอย่างมาก

 

ตั้งแต่ปี 1997 (2540) เราได้เข้าสู่วงจรที่ยาวนานของธาตุไฟและธาตุดิน ธาตุดินคือกล้ามเนื้อส่วนธาตุไฟคือน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นเชื้อเพลิงให้แก่กล้ามเนื้อ  ด้วยเหตุนี้ผู้คนมากมายจึงมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นในช่วงวงจรเจ็ดปีดังกล่าว และในที่สุดอิทธิพลของธาตุไฟและธาตุดินก็อ่อนลงในปี 2004 (2547) เมื่อเราเข้าสู่ปีวอก และปี 2006 (2548) เมื่อเราเข้าสู่ปีระกาทั้งสองปีนี้เป็นปีธาตุโลหะซึ่งเป็นธาตุที่บั่นทอนธาตุดิน ดังนั้นจึงสร้างโอกาสที่ดีแก่คนทั้งโลกในการลดธาตุดิน ซึ่งก็คือน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน

 

ความสัมพันธ์ระหว่างธาตุไฟและธาตุดินมีความคล้ายคลึงกับความสัมพันธ์ระหว่างคาร์โบไฮเดรตและอินซูลินเป็นอย่างมาก อาหารที่มีกลีเซอมิคสูงจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและก่อให้เกิดความผิดปกติของอินซูลิน ซึ่งเหมือนกับการที่ธาตุไฟที่มากเกินไปก่อให้เกิดปริมาณธาตุดินที่มากเกินอัตราจนทำให้ขาดความสมดุล ด้วยหลักการดังกล่าวนี้เอง จึงไม่ยากที่จะสืบหาแนวโน้มของโรคอ้วนและโรคเบาหวานจากจตุสดมภ์แห่งโชคชะตาของเรา และนำไปสู่การหาหนทางที่มีประสิทธิภาพเข้ามาจัดการกับการแพร่ของโรคดังกล่าว

 

มามา คาส เอลเลียต

 19 กันยายน 1941 (2484) ถึง

 29 กรกฎาคม 1974 (2517)

มาม่า คาส เอลเลียตเป็นคนธาตุโลหะแข็งที่เกิดในช่วงฤดูของธาตุโลหะ ดังนั้นเธอจึงต้องการธาตุน้ำและธาตุไม้มาเป็นช่องทางระบายธาตุโลหะของเธอ ธาตุไฟที่จริงแล้วถือว่าเป็นธาตุที่ไม่เลว เพราะสามารถควบคุมธาตุโลหะของเธอได้ ในจตุสดมภ์แห่งโชคของเธอ ช่วงระหว่างอายุ 17 ถึง 31 ปีเป็นธาตุดินทั้งหมด ธาตุดินเป็นธาตุที่ไม่ถูกโฉลกกับเธอและยังทำให้เธออ้วนอีกด้วย การเสียชีวิตของเธอในปี 1974 (2517) ซึ่งตรงกับปีขาลนั้นที่จริงแล้วถูกจุดขนวนขึ้นโดยธาตุไฟที่แข็งแกร่งอันเกิดจาก "โทษทัณฑ์ธาตุไฟ" ของนักษัตรขาล มะเส็ง และวอก โดยนักษัตรมะเส็งอยู่ที่สดมภ์ปีของเธอ นักษัตรวอกอยู่ในสดมภ์เดือน และนักษัตรขาลคือปี 1974 (2517) สิ่งนี้อธิบายสาเหตุที่ทำให้เธอเสียชีวิตเพราะ "หัวใจล้มเหลว" เกี่ยวเนื่องกับธาตุไฟ

 

ฮัลล์ เบอร์รี่ นักแสดงสาวสวยผู้ชนะรางวัลออสการ์ลาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในปี 2002 (2545) ได้รับทุกข์ทรมานจากโรคเบาหวานตั้งแต่วัยเด็ก สิ่งนี้แสดงว่าตับอ่อนของเรอไม่ผลิตอินซูลิน ดังนั้นเธอจึงต้องรับอินซูลินเข้าไปทุกวันต่อไปนี้คือจตุสดมภ์ของเธอ

ฮัลล์ เบอร์รี 14 สิงหาคม 1968 (2511)

ฮัลล์ เบอร์รีเป็นคนธาตุไฟอ่อนและจำเป็นต้องได้รับการเกื้อหนูนจากธาตุไม้และธาตุไฟ ธาตุน้ำก็ใช้ได้เช่นกันเนื่องจากธาตุน้ำส่งเสริมธาตุไม้ ธาตุโลหะและธาตุดินเป็นธาตุที่ไม่ถูกโฉลกเพราะธาตุเหล่านี้จะบั่นทอนธาตุไฟของเธอ เมื่อดูที่โชคของเธอในวัยเด็ก จะเห็นว่าเต็มไปด้วยธาตุดินจนกระทั่งอายุ 23 ดังนั้นจึงเกิดความไม่สมดุลอย่างเฉียบพลันของธาตุดินซึ่งก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับอินซูลินและโรคเบาหวาน ลักษณะเช่นนี้ยืนยันข้อสันนิษฐานของเราที่ว่าโรคเบาหวานเกิดขึ้นเนื่องจากความไม่สมดุลของธาตุดินจริงๆ ดังนั้นไม่เพียงแต่คนอ้วนเท่านั้นที่รับทุกข์ทรมานจากโรคเบาหวาน แม้แต่คนรูปร่างผอมบางที่มีปัญหาเกี่ยวกับธาตุดินอย่าง ฮัลล์ เบอร์รี ก็สามารถเป็นโรคดังกล่าวได้

 

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ "การลดน้ำหนัก" กลายเป็นประเด็นร้อนและนิตยสารบันเทิงเกือบทุกฉบับต่างก็รายงานถึงหลากหลายวิธีที่ดาราหนังและคนดังทั้งหลายใช้ในการทำให้รูปร่างผอมบาง มีอาหารลดน้ำหนักหลายประเภท แต่ที่เป็นที่โต้เถียงและมีผลกระทบมากที่สุดคือ "อาหารไขมันสูง โปรตีนสูง คารโบไฮเดรตต่ำ" ของด๊อกเตอร์แอทคิน เขาชี้ให้เห็นว่าคาร์โบไฮเดรตสูงทำให้เกิดโรคอ้วน ดังนั้นอาหารของเขาจึงเกือบจะกำจัดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตออกไปหมด และแทนที่ด้วยโปรตีนและไขมัน อย่างไรก็ตาม ร่างกายโดยเฉพาะสมองต้องการกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานอันดับหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องมีคาร์โบไฮเดรตที่ดีจำนวนมากในการทำหน้าที่อย่างเหมาะสม การทำให้ร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรตอย่างต่อเนื่องจะทำให้เซลล์ขาดอาหารและอินซูลินก็จะลดลงอย่างมาก เมื่อปราศจากกลูโคส ไขมัน และกล้ามเนื้อจะแย่ลงเพราะต้องหล่อเลี้ยงเชื้อเพลิงให้กับร่างกาย สิ่งนี้ทำให้ร่างกายเกิดความเครียดและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา

 

ด็อกเตอร์แอทคินเสียชีวิตเมื่ออายุ 72 ปี หลังจากที่ลื่นหกล้มบนพื้นน้ำแข็ง ที่จริงแล้วในเดือนเมษายน 2002 (2545) เขาได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อหัวใจเขาหยุดเต้น หากเราพิจารณาจตุสดมภ์ของเขาจะเห็นว่ามีความคล้ายคลึงกันมากกับกรณีของมามา คาส เอลเลียต ที่เรากล่าวถึงไปก่อนหน้านี้

ด็อกเตอร์โรเบิร์ต แอทคิน

17 ตุลาคม 1930 (2473)

ด็อกเตอร์แอทคินเป็นคนธาตุโลหะแข็งเช่นเดียวกับมามา คาส และเขาจำเป็นต้องมีธาตุน้ำและธาตุไม้มาเป็นช่องทางระบายธาตุโลหะของเขา ธาตุดินและธาตุโลหะเป็นศัตรูของเขา ธาตุไฟก็ไม่ดีเช่นกันเพราะจะไปเกื้อหนุนธาตุดินซึ่งไม่ถูกโฉลกกับเขา ในปี 2002 (2545) เขาอายุ 72 ปีและอยู่ในช่วงสดมภ์แห่งโชคของนักษัตรมะเส็งธาตุไฟ ในปี 2002 (2545) ยังเป็นปีมะเมียซึ่งเป็นธาตุไฟที่แข็งแกร่งอีกด้วย ดังนั้นภาวะหัวใจหยุดเต้นจึงถูกกระตุ้นจากธาตุไฟที่มากเกินไป

 
Visitors: 179,614