20 ฟื้นฟูกิจการธนาคารฮ่องกงด้วยฮวงจุ้ย

ฟื้นฟูกิจการธนาคารฮ่องกงด้วยฮวงจุ้ย 

กล่าวกันว่าสำนักงานใหญ่ของธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ตั้งอยู่ที่คูหามังกรของภูเขาวิกตอเรีย ซินแสฮวงจุ้ยเชื่อว่าภูเขาวิกตอเรียคือส่วนหนึ่งของทิวเขาไท่โหมซานในเกาลูน หลังจากข้ามอ่าว มันก็ยกตัวขึ้นกลายเป็นวิกตอเรียพีกบนเกาะฮ่องกงวิกคอเรียพีกมีลักษณะเหมือนหันหัวมองกลับไปยังไท่โหมซาน ดังนั้น จึงเรียกมันว่า "มังกรหันหัวกลับไปคำนับบรรพบุรุษ" ภูเขาวิกตอเรียลดระดับลงทางทิศเหนือแล้วแยกออกเป็น 2 สาขาใหญ่ กลายเป็น 2 "ถ้ำมังกร" ก่อนที่จะลงทะเลไป ถ้ำหนึ่งหรือคูหาหนึ่ง พบได้ที่สนามหญ้าหลังจวนข้าหลวง ส่วนอีกแห่งหนึ่งอยู่ในเขตเซ็นทรัล อันเป็นที่ตั้งของอาคารธนาคารฮ่องกง

 

คูหามังกรคือ จุดที่พลังงานของทั้งเทือกเขามารวมตัวกัน บริเวณที่จะถือได้ว่าเป็นคูหามังกรได้นั้น ต้องมีที่พักพิงรูปทรงดีทั้งด้านหลังและด้านข้างทั้ง 2 ด้าน และถ้าให้ดีที่สุดต้องมีน้ำอยู่ข้างหน้า เพื่อหยุดยั้งพลังไม่ให้กระจายตัว ทำเลของธนาคารฮ่องกงล้วนเข้าเกณฑ์นี้ ดังนั้น มันจึงถูกถือว่าเป็นหัวใจของฮ่องกง และเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง 

 

สภาพแวดล้อมด้านกายภาพของอาคารธนาคารฮ่องกงรับอิทธิพลฮวงจุ้ยที่ดีได้พอดี นอกจากมันจะตั้งอยู่บนคูหามังกรแล้ว ยังมีสวนจัตุรัสอนุสาวรีย์ที่ประตูหน้าเป็นหมิงถัง ซึ่งปล่อยให้พลังแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่จับต้องไม่ได้มารวมตัวกันอีกด้วย อ่าววิกตอเรียและท่าเรือสตาร์เฟอร์รีย์ช่วยเก็บกักพลังที่จับต้องไม่ได้ที่หมิงถังเอาไว้ และกันไม่ให้มันกระจายตัวออกไป อาคารธนาคารฮ่องกงยังแวดล้อมด้วย อาคารธนาคารแห่งประเทศจีนหลังเก่าธนาคารชาร์เตอร์ อาคารปรินซ์และเลกโก ซึ่งทำหน้าที่ "มังกรและเสือ" ทั้ง 2 ด้าน (พิทักษ์ด้านซ้ายและด้านขวา)

 

สภาพการจราจรบนถนนเดส์โวเออซ์จากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก ซึ่งไหลต่อเนื่องอย่างช้า ๆ ในแบบลาดเอียงเล็กน้อยผ่านประตูหน้า เท่ากับช่วยเพิ่มพูนอิทธิพลแห่งความเมตตายิ่งขึ้น จึงอาจกล่าวได้ว่าธนาคารฮ่องกงตั้งอยู่ในทำเลฮวงจุ้ยที่ดีเยี่ยมอย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่ครึ่งหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น เรายังต้องตรวจสอบการหมุนเวียนของพลังที่จับต้องไม่ได้อย่างระมัดระวังอีกด้วยก่อนหาข้อสรุปใด ๆ ก็ตาม

 

 

อาคารหลังเดิมของธนาคารฮ่องกงเปิดทำการในปี 1935 ซึ่งอยู่ในยุคสี่ ด้านหน้าของอาคารหันไปทางทิศเหนือ และด้านหลังอิงทิศใต้ จากข้อมูลนี้ เราสามารถผูกดวงชะดากำเนิดของอาคารได้ และมันจะแสดงให้เห็นความหมุนเวียนของพลังที่จับต้องไม่ได้ในทุกทิศ 

 

รูปแผนภูมิดวงชะตากำเนิดของอาคารธนาคารฮ่องกง

 

แผนภูมิดาวเหินสะท้อนถึงอาคารที่เจริญรุ่งเรืองในยุคสี่ เพราะตำแหน่งของทั้งดาวภูเขาและดาวน้ำล้วนอยู่ตรงทางเข้า  ด้านหน้าทางทิศเหนือ มีสวนจัตุรัสอนุสาวรีย์และอ่าววิกตอเรียที่อยู่ทางทิศเหนือกอปรเป็นหมิงถัง ซึ่งเก็บกักพลังแห่งความเมตตาที่จับต้องไม่ได้เอาไว้ อาคารหลังนี้จึงตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก และเกิดความเจริญรุ่งเรืองจากอิทธิพลฮวงวุ้ย ดาวน้ำห้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความ

เจริญในอนาคคอันใกล้สำหรับยุคสี่ ก็อยู่ทิศใต้ทางด้านหลังของธนาคาร ทางเข้าด้านหลังของอาคารบนถนนควีนส์ก็เป็นสถานที่อันเหมาะสมที่จะต้อนรับความเจริญรุ่งเรืองจากด้านหลัง ดังนั้น ทางเข้าทั้งคู่ที่ถนนเดส์โวเออซ์และถนนควีนส์จึงเป็นหลักประกันแห่งโชคลาภสำหรับธนาคารฮ่องกง และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใดที่ธนาคารเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่องในยุคห้า ซึ่งอยู่ระหว่างปี 1944- 1963

หลังจากปี 1963 ซึ่งเข้าสู่ยุคหก อิทธิพลแห่งความเมตตาของดาวสี่และดาวห้าที่ทางเข้าด้านหน้าและด้านหลังเลือนหายไป แต่ที่มุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งดาวน้ำหกอยู่ที่นั่น ได้กลายเป็นตำแหน่งแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่สุดขึ้นมาแทน ธนาคารสามารถรักษาโชคลาภเอาไว้ได้ เนื่องจากผลกระทบจากดาวน้ำทวีความเข้มขันขึ้น ทั้งนี้เพราะอ่าววิกตอเรียและสภาพการจราจรที่ไหลต่อเนื่องบนถนนเดส์โวเออซ์จากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

 

อาคารธนาคารหลังเก่าถูกรื้อถอนในปี 1981 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในแง่ของฮวงจุ้ย เพราะตั้งแต่ในยุคเจ็ด ซึ่งเริ่มจากปี 1984 เป็นต้นไป อาคารหลังเก่าซี่งสร้างขึ้นในยุคสี่ไม่สามารถดำรงความเจริญรุ่งเรืองไว้ใด้ต่อไปแล้ว ดังที่เห็นได้จากแผนภูมิดวงชะตากำเนิด เพราะตำแหน่งของดาวน้ำเจ็ด ซึ่งเป็นดาวแห่งความเจริญรุ่งเรือง อยู่ทางทิศตะวันตกนั้นไม่มีที่เปิดโล่ง หรือน้ำที่จะส่งเสริมอิทธิพลแห่งความเมตตาของมัน ดาวเหินสี่ที่ทางเข้าด้านหน้าก็พ้นสมัยไปแล้วในยุคเจ็ด การสร้างอาคารธนาคารใหม่จึงเป็นวิธีเดียวที่จะฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาอีก

โชคชะตาของอาคารเปลี่ยนแปลงได้จากผลของการสร้างอาคารหลังนั้นใหม่ การรื้อถอนและสร้างใหม่จะให้ชีวิตใหม่แก่อาคารหลังนั้น และให้แผนภูมิดาวเหินใหม่ด้วยอาคารหลังใหม่ของธนาคารฮ่องกงมีลักษณะของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ความคิดของผู้ออกแบบ ได้แก่การสร้างอาคารที่ธนาคารฮ่องกงภาคภูมิใจกับมันได้ นั่นคือมันมีลักษณะที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต กล่าวกันว่าค่าก่อสร้างตกประมาณ 5.3 พันล้านเหรียญฮ่องกง อาคารหลังใหม่เปิดทำการในเดือนกรกฎาคม 1985 ดังนั้น ยุคใหม่ของมันจึงได้แก่ยุคเจ็ด ]

 

แผนภูมิดวงชะตากำเนิดของอาคารหลังใหม่ของธนาคารฮ่องกง

 

แผนภูมิดาวเหินคำนวณจากทิศเหนือ -ใต้ของอาคารในยุดเจ็ด ในแผนภูมิตำแหน่งของหมายเลข 7 (ซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองในยุค7) อยู่ที่ทิศเหนือตรงทางเข้าด้านหน้า ส่วนตำแหน่งของหมายเลข 8 ซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตอันใกล้ (ยุค 8) อยู่ด้านหลังของอาคารทางทิศใต้ ตำแหน่งที่ดีที่สุดของดาว-เจ็ดและดาวแปด ซึ่งเป็นดาวแห่งความเจริญรุ่งเรื่องในปัจจุบันและอนาคตคือ ที่ทางเข้าและที่เปิดโล่ง เมื่อพิจารณาจากแง่นี้ อาคารธนาคารฮ่องกงจึงสามารถฉวยประโยชน์จากอิทธิพลที่ดีจากทางเข้าที่กว้างใหญ่ทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ ทางเข้าด้านทิศเหนือ (หันหน้าไปหาอ่าว) ดาวน้ำเจ็ดซึ่งเป็นดาวแห่งความเจริญรุ่งเรือง ได้รับการส่งเสริมจาก หมิงถังที่มีลักษณะดีเยี่ยมอันเกิดจากสวนจัตุรัสอนุสาวรีย์ ทั้งยังได้รับการพิทักษ์อย่างดีจากอาคารปรินซ์และอาคารเลกโก นี่หมายความว่าพลังแห่งความรุ่งเรืองที่จับต้องไม่ได้ของยุคเจ็ดถูกเก็บกักไว้เป็นอย่างดี และจะไม่สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว

 

ดาวน้ำที่ดีจำเป็นต้องอาศัยความเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นอิทธิพลแห่งความเมตตาของมัน ผู้คนจำนวนมากที่หลั่งไหลออกจากสถานีรถใต้ดิน คนงานคอปกขาว และสาวใช้ชาวฟิลิปปินส์ในสวนจัตุรัสอนุสาวรีย์ รวมทั้งความเคลื่อนไหวของเรือข้ามฟากที่ข้ามอ่าววิกคอเรียไป ๆ มา ๆ กระตุ้นดาวน้ำเจ็ดให้นำโชคลาภมาให้ 

อย่างไรก็ตาม มีข้อบกพร่องร้ายแรงอยู่ประการหนึ่ง กล่าวคือ ชั้นล่างของพลาซ่าดูว่างเปล่าเกินไป เพราะมีผนังอยู่เพียงไม่กี่ด้านที่จะเก็บกักพลังที่จับต้องไม่ได้ นอกจากนั้น ชั้นล่างที่กลวงและว่างยังทำให้เกิดความรู้สึกว่าพื้นฐานของอาคารไม่มั่นคงอีกด้วย อาคารหลังเก่าดูเป็นปีกแผ่นมั่นคงและมีฐานกว้าง แต่อาคารหลังใหม่แตกต่างออกไป ดูเหมือนมันไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่มั่นคง ซินแสฮวงจุ้ยที่มีจินตนาการจะนึกไปว่า ลักษณะเช่นนี้สัมพันธ์กับวิกฤตการณ์แห่งความเชื่อมั่นของคนฮ่องกง วิกฤตการณ์อีกอย่างหนึ่งคือ ตำแหน่งของบันไดเลื่อนใหญ่ 2 ตัวที่นำไปสู่ชั้น 2 แทนที่มันจะดึงเอาพลังแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่จับต้องไม่ได้จากทิศเหนือ มันกลับตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อันจะก่อกวนอิทธิพลร้ายของพลังที่จับต้องไม่ได้ของดาวน้ำสองซึ่งเป็นซาที่นำความเจ็บไข้ได้ป่วยมาให้ มันจึงลดทอนความเจริญรุ่งเรืองของทางเข้าด้านหน้าลงมาก

 

หลังจากธนาคารแห่งประเทศจีนก่อสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นทางด้านขวาของอาคารธนาคารฮ่องกง ซินแสฮวงจุ้ยบางคนวิตกว่า สันคมจากลักษณะที่แห่งแก้วปริซึมของธนาคารแห่งประเทศจีนจะก่อให้เกิดซา ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อธนาคารฮ่องกง แต่โชคดีที่ไม่มีสันคมด้านใดชี้ตรงมายังสำนักงานใหญ่ของธนาคารฮ่องกง นอกจากนั้นตำแหน่งของธนาคารแห่งประเทศจีนยังอยู่ทางทิศตะวันออก-เฉียงใต้ ซึ่งเราพบดาวภูเขาหนึ่งในแผนภูมิดาวเหิน ถึงแม้ว่าดาวหนึ่งจะไม่ได้หมายถึงความเจริญรุ่งเรื่อง ทว่าตัวมันเองก็ไม่ก่อให้เกิดซาเป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด

 

ยังมีการศึกษาตำแหน่งของธนาคารฮ่องกงในแง่สัมพันธ์กับฮวงจุ้ยของจวนข้าหลวงด้วย จวนข้าหลวงซึ่งตั้งอยู่บนถนนการ์เดน โดยหันหลังให้อ่าววิกตอเรียได้รับความเจริญรุ่งเรืองในอดีตจากรูปลักษณ์ที่ "นั่งว่าง หันเต็ม" ของมัน อาคารหลังใหม่ที่สูงใหญ่ของธนาคารฮ่องกงก่อให้เกิด "ภูเขา" ที่ด้านหลังของจวนข้าหลวงและส่งผลรบกวนฮวงจุ้ยที่ดีอยู่บ้าง

 

เรื่องราวของอาคารธนาคารฮ่องกงคงไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่กล่าวถึงสิงโตสัมฤทธิ์ที่มีชื่อเสียงคู่หนึ่ง ซึ่งเฝ้าอยู่ตรงทางเข้าด้านหน้า สิงโตคือสัญลักษณ์ของพลังงานกำลัง และพลังชีวิตของธนาคารและเศรษฐกิจฮ่องกง ตำแหน่งของสิงโตคู่นี้มักสัมพันธ์กับโชคร้าย มันถูกย้ายครั้งแรกในปี 1941 เมื่อญี่ปุ่นบุกฮ่องกง และขนมันไปโตเกียว  

 

ต่อมามันถูกค้นพบอย่างน่าอัศจรรย์ในโรงงานอาวุธแห่งหนึ่งในโตเกียว ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง มันถูกนำมาตั้งที่หน้าธนาคารในปี 1945 การย้ายตำแหน่งครั้งที่ 2 เกิดขึ้นหลังจากการรื้อถอนอาการหลังเก่า ซินแสฮวงจุ้ยบางคนเชื่อมโยงการย้ายตำแหน่งครั้งหลังนี้กับการยุติการเจรจาระหว่างจีนกับอังกฤษ เรื่องการคืนฮ่องกงให้จีนในปี 1997 และวิกฤตการณ์แห่งความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นในปีต่อ ๆ มาหลังจากนั้น

Visitors: 179,614